แชร์

คุณทิชา ณ นคร ที่ปรึกษามูลนิเด็ก เยาวชนและครอบครัว นำทีมยื่น 7 ข้อเสนอป้องกันและแก้ไขปัญหาครูคุกคามทางเพศนักเรียนนำทีมยื่น 7 ข้อ ต่อรัฐมนตรีศึกษา

อัพเดทล่าสุด: 13 มิ.ย. 2024
536 ผู้เข้าชม

มื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่กระทรวงศึกษาที่การ นางทิชา ณ นคร ที่ปรึกษามูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว และผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก นางสาวอังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และตัวแทนภาคีเครือข่ายองค์กรด้านเด็ก สตรี ครอบครัวและภาคประชาสังคม กว่า 40 คน เข้ายื่นหนังสือที่มีองค์กรด้านเด็ก สตรี ครอบครัวและภาคประชาสังคม 100 องค์กรร่วมลงชื่อถึง พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแสดงจุดยืนและเรียกร้อง หลังมีคำพิพากษากลุ่มครูและรุ่นพี่ข่มขืนนักเรียนที่จังหวัดมุกดาหาร พร้อมทั้งแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ "นักเรียนต้องปลอดภัย หยุดคุกคามทางเพศ"

นางทิชา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่นักเรียนหญิงวัย 14 ปี ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร ออกมาเปิดเผยว่าถูกครูในโรงเรียนของตนเองจำนวน 6 คน ร่วมกับรุ่นพี่อีก 2 คน ข่มขืนกระทำชำเราต่อเนื่อง ผู้ปกครองจึงพาเข้าแจ้งความและมีการจับกุมดำเนินคดีโดยมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว ร่วมกับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าให้การช่วยเหลือ เยียวยาและผลักดันให้ผู้เสียหายและครอบครัวได้เข้าสู่การคุ้มครองพยาน ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จัดกระบวนการเสริมพลังใจและจัดทนายความของมูลนิธิเป็นทนายโจทย์ร่วม ให้การช่วยเหลือต่อสู้จนล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ศาลมุกดาหารได้อ่านคำพิพากษาจำคุกจำเลย 6 คน ตลอดชีวิต และให้ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งรวมเกือบ 3 ล้านบาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี ส่วนครูอีก 2 คน ศาลยกฟ้องด้วยเหตุพยานหลักฐานยังไปไม่ถึง

ทั้งนี้ เครือข่ายยุติความรุนแรงทางเพศในสถานศึกษา กว่า 100 องค์กร เห็นว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยกับนักเรียนในความดูแลของกระทรวงศึกษา และเกิดจากการกระทำของบุคลากรทางการศึกษาเอง สะท้อนถึงวัฒนธรรมความรุนแรงทางเพศที่ฝังรากลึกอยู่ในระบบการศึกษาของไทย เครือข่ายจึงขอเรียกร้อง ดังนี้ 1. เมื่อเกิดเหตุความรุนแรงต่อเด็กนักเรียนที่เป็นการละเมิดกฎหมาย กระทรวงศึกษาทำหน้าที่เป็นเจ้าทุกข์ร่วมในการแจ้งความและฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญา ประสานให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่เด็กผู้เสียหายและผู้ปกครอง ช่วยจัดการให้ถึงการคุ้มครองสวัสดิภาพและได้รับการเยียวยาทางจิตใจโดยด่วน 2. หากสอบสวนพบครูหรือบุคลาการทางการศึกษาอื่นล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียน ให้กระทรวงศึกษาลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด ถอนใบประกอบวิชาชีพครู ไม่ให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนโดยตรงเด็ดขาด 3. รัฐมนตรีหรือผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษารีบดำเนินการเอาผิด ป้องกันไม่ให้เกิดการแทรกแซงช่วยเหลือผู้กระทำผิด ต้องรีบลงพื้นที่สร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้เสียหาย ครอบครัว รวมถึงครู นักเรียนที่ไม่ได้กระทำผิด

"4. เร่งจัดเวทีระดมสมองจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนานโยบายและมาตรการเชิงรุกในการป้องกัน แก้ไขปัญหาที่ปฏิบัติได้จริง สำหรับโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ 5. ทบทวนการทำงานของศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ (ศคพ.) และพัฒนาให้มีความเป็นอิสระ เป็นมิตรต่อผู้เสียหาย มีองค์กรภายนอกที่เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็กและการแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศเข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง ประชาสัมพันธ์ให้รับทราบและเข้าถึงกลไกนี้อย่างกว้างขวาง 6. ให้การศึกษาแก่ครูและผู้บริหารโรงเรียนทั่วประเทศเกี่ยวกับหลักการและแนวปฏิบัติเพื่อการคุ้มครองสิทธิเด็ก การเคารพความเสมอภาคระหว่างเพศ และมีแนวปฏิบัติเพื่อสร้างให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากความรุนแรงทางเพศ และ 7. ขอให้ประชาชน ผู้ปกครอง ช่วยจับตา สอดส่องความผิดปกติของครู นักเรียน และโรงเรียนที่อาจจะนำไปสู่การคุกคามทางเพศ เพื่อให้เกิดการป้องปราม ตัดวงจรที่จะนำไปสู่ความเสียหาย" นางทิชา กล่าว

ด้านนางสาวอังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายสงเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า จากการรวบรวมข่าวความรุนแรงทางเพศในปี พ.ศ.2564 จากหนังสือพิมพ์จำนวน 13 ฉบับ พบข่าวความรุนแรงทางเพศจำนวน 98 ข่าว ครึ่งหนึ่งของข่าวกลุ่มผู้ถูกกระทำอายุ 11-15 ปี ร้อยละ 60 ผู้ถูกกระทำเป็นเด็ก วัยรุ่นและนักเรียน ร้อยละ 16 ของข่าวผู้กระทำเป็นบุคลากรทางการศึกษา ที่น่าสนใจเมื่อลงรายละเอียดในข่าวพบว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กับยาเสพติดเป็นปัจจัยร่วมที่สำคัญร้อยละ 38 และร้อยละ 19 ตามลำดับ สอดคล้องกับข้อเท็จจริงกรณีมุกดาหารที่พบว่าหลังบ้านพักครูจะพบกองขวดเหล้าเบียร์จำนวนมาก จุดที่น่าสนใจมาก ๆ คือเหตุการณ์นี้ไม่ได้พึ่งเกิดหรือเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว เป็นความต่อเนื่องยาวนาน ทำไมคนในพื้นที่จึงไม่เห็นความผิดปกติ เพราะหากช่วยกับจับตา เฝ้าระวัง และเมื่อพบเห็นความผิดปกติแล้วมีกระบวนการป้องปรามเหตุการณ์อาจจะไม่บานปลายมาขนาดนี้ เด็กอาจจะได้รับการปกป้องที่ดี ดังนั้นการมีส่วนร่วมของชุมชน คนในพื้นที่ นักเรียน รวมถึงครูที่ไม่ได้อยู่ในขบวนการ จึงมีความสำคัญมาก ที่จะช่วยกันส่งสัญญาณ

"จากคำพิพากษานี้จึงเป็นอุทาหรณ์สำคัญกับคนที่จะเป็นครู ในจรรยาบรรณวิชาชีพและความเมตตาต่อลูกศิษย์ ต้องไม่ล้ำเส้นเด็ดขาด และควรถึงเวลาที่กระทรวงจะปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนที่ให้ความสำคัญกับการเคารพเนื้อตัวร่างกาย สิทธิ การให้เกียรติกันอย่างจริงจังเสียที" นางสาวอังคณา กล่าว

......

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

https://www.matichon.co.th/education/news_4326733

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8004959

https://mgronline.com/politics/detail/9660000111307

https://www.dailynews.co.th/news/2984664/

https://www.naewna.com/local/774668

https://www.mcot.net/view/YjOX4mO8

https://siamrath.co.th/n/499553

https://www.bangkokbiznews.com/health/education/1103214

https://www.siamhighlight.com/2023/12/7.html



บทความที่เกี่ยวข้อง
เรียนรู้ 9 สัญญาณอันตราย (9 Warning Signs) เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ YSL Beauty จัดเวิร์คช็อป เรียนรู้ 9 สัญญาณอันตราย (9 Warning Signs) ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงในคู่รัก ภายใต้โครงการ Abuse is Not Love โดย YSL Beauty เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 โดยในครั้งนี้เป็นการเวิร์คช็อปร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่อาคารคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
17 ธ.ค. 2024
ขอแสดงความยินดีกับ คุณอังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ที่ได้รับโล่เชิดชูเกียรติ "บุคคลที่สนับสนุนและส่งเสริมการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ. 2567"
ขอแสดงความยินดีกับ คุณอังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ที่ได้รับโล่เชิดชูเกียรติ "บุคคลที่สนับสนุนและส่งเสริมการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ. 2567" จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ที่ สยามสแควร์วัน
17 ธ.ค. 2024
เข้ายื่นหนังสือถึงนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หรือกระทรวงพม. เพื่อยื่นข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและในคู่รัก
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ มูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว และแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ พร้อมด้วย เครือข่ายเยาวชนรถปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายชุมชน วัดสวัสดิ์วารี เครือข่ายชุมชนซอยพระเจน กว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือถึงนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หรือกระทรวงพม. เพื่อยื่นข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและในคู่รัก
17 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy