การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวสิ่งสำคัญคือการเสริมพลังอำนาจผู้ถูกกระทำให้เห็นคุณค่า ศักยภาพของตนเอง สามารถดึงพลังศักยภาพที่มีอยู่ในตนเองออกมาใช้ได้ นำมาสู่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงในครอบครัวที่มีทัศนคติ ค่านิยมแบบชายเป็นใหญ่ เพศชายมีอำนาจติดตัวมาแต่กำเนิด ภาวะความเป็นผู้นำ ความเข้มแข็ง ความกล้า คือบทบาทหน้าที่หลักที่ผู้ชายต้องเป็นและเรียนรู้ วัฒนธรรมการดื่มเหล้าทำให้ค่านิยมความเป็นชายเข้มข้นขึ้น เพราะผู้ชายส่วนใหญ่มักวนเวียนอยู่กับสังคมเพื่อน กล้าแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน
ดังนั้น ทัศนคติ ค่านิยมแบบชายเป็นใหญ่ และการดื่มเหล้าจึงนำมาสู่ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ ส่งผลกระทบต่อทุกเพศ สะท้อนความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศ
กลุ่มผู้ชายที่ดื่มเหล้า ใช้ความรุนแรงในครอบครัวสะท้อนทัศนคติความคิดของผู้ชายในกลุ่มสนทนา ยอมรับว่ารู้สึกมีอำนาจเหนือผู้หญิง ผู้หญิงต้องปรนนิบัติ รักเดียวใจเดียว ไปยุ่งกับคนอื่นไม่ได้ เรื่องศักดิ์ศรี คือ ความเป็นชาย
กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน ถือเป็นหนึ่งเครื่องมือในการให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม โดยมีผู้ชายที่กำลังดื่มเหล้า ใช้ความรุนแรง มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์หาทางออกของปัญหาร่วมกับผู้ชายที่ผ่านพ้นปัญหาแล้ว ผู้ชายที่ดื่มเหล้าฯต้องการเพื่อน กำลังใจ ต้องการประสบการณ์ทางออกในการแก้ไขปัญหา รู้สึกว่าตนเองไม่โดดเดี่ยว มีเพื่อนที่ประสบเช่นกัน กลุ่มจะรับฟังปัญหาพร้อมให้กำลังใจกันและกัน และทำให้ผู้ชายที่ดื่มฯ ได้มีโอกาสทบทวนตนเอง เข้าใจตนเองและเกิดประการณ์ใหม่จากเพื่อนในกลุ่ม นำไปสู่การสร้างพลังอำนาจภายใน ตนเองและการนำไปสู่การสร้างพลังอำนาจในกลุ่มได้
คุณเอ หนึ่งในผู้ชายที่เคยกระทำความรุนแรงจนทำให้ภรรยาเสียชีวิต จากเป็นคนโผงผาง พูดจาเสียงดัง ขี้โมโห รักศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย คนอื่นมองว่าเก่ง เมื่อมีแฟนคิดว่าต้องเป็นผู้นำ ต้องหาเลี้ยงครอบครัว พูดอะไรถูกเสมอ และดื่มเหล้าทุกวัน ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เมื่อภรรยาไปตามในวงเหล้าทำให้รู้สึกเสียหน้า กลับถึงบ้านมีปัญหาทะเลาะกันและได้ทำร้ายจนภรรยาสลบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา คุณเอ เสียใจมาก ยอมรับการตัดสินของศาลจำคุก 10 ปี
กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน จึงถือเป็นอีกพื้นที่ที่ทำให้คุณเอได้เยียวยาจิตใจของตนเอง ได้กำลังใจจากเพื่อน และทำให้คุณเอตั้งใจจะปรับเปลี่ยนตนเองจากการลด ละ การดื่มเหล้า
กรณีคุณเอ สะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการ empowerment ผู้กระทำฯ เป็นเรื่องสำคัญมาก อีกทั้งเราสามารถเชื่อมั่นได้ว่ามนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยต้องมีกระบวนการและการหนุนเสริมที่เข้าใจ และเป็นมิตร